วันศุกร์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

เรียนรามฯ คุณจะจัดการกับตัวเองอย่างไร

ภาพหนังสือจากการค้นหาใน Google รูปภาพ
สวัสดีครับ !!! ท่านผู้อ่านบล็อก "เกาะติดชีวิตเด็กการตลาด มหาวิทยาลัยรามคำแหง" ทุกท่านเลยนะครับ วันนี้ผมมีบทความมาฝาก อาจจะเป็นนอกเหนือจากวิชาการในบทเรียน แต่ก็เป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

สำหรับประเด็นที่ผมอยากจะเปิดในวันนี้ก็คือ "เรียนรามฯ คุณจะจัดการกับตัวเองอย่างไร" ผมนึกถึงชีวิตผู้คนที่เดินผ่านไปมาในย่าน "รามคำแหง" ที่เดินสวนกันอยู่ทุกวัน บางคนก็เพิ่งกลับจากทำงาน บางคนเพิ่งออกไปทำงาน ทำงานหามรุ่ง หามค่ำ หรือ จะหาเช้ากินค่ำ ก็มี และคนที่ไม่ได้ทำงานอะไรเลย "ก็ยังมี"

สังเกตุได้ว่า "รูปแบบในการดำเนินชีวิต" ของแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน ผมคิดว่าผม หรือว่าคุณ ถ้าคิดจะจัดการชีวิตในเรื่องการเรียน ก็น่าจะเตรียมแผนสำหรับตัวเองให้พร้อม ... และควรจะมีความสอดคล้องกับรูปแบบชีวิตของเรา

แผนที่ผมว่าหลัก ๆ ก็คือเรื่องของแผนการจัดการบริหารเวลาในชีวิตประจำวัน ดังนั้นหาก 1 วัน มี 24 ชั่วโมง เราจะแบ่งเวลาในแต่ละวันอย่างไรบ้าง อันนี้ก็แล้วแต่ใครจะจัดการกับตัวเองได้นะครับ อย่างที่ผมบอก ว่ารูปแบบการดำเนินชีวิตของแต่ละคนนั้น ไม่เหมือนกัน

ประโยชน์ของการแบ่งเวลา หรือจัดการเวลาก็คือ ทำให้เราเป็นคนที่มีวินัยในตัวเอง รู้จักการคาดการ์ณของการใช้เวลาแต่ละชั่วโมง ของแต่ละกิจกรรมที่เราได้ทำ ยังไงเราก็รู้ครับ ว่าใช้เวลาในการทำกิจกรรมนี้ ควรใช้เวลาประมาณเท่าไหร่ เว้ยเสียแต่ว่าเกิดเหตุการ์ณจนเราควบคุมเวลาไม่ได้เลย

ดังนั้น "เรียนรามฯ" ค่อนข้างมีความอิสระ ด้วยเหตุผลที่ว่า หลาย ๆ คณะส่วนใหญ่ ไม่ต้องไปเรียนก็ได้ อาจจะอ่านหนังสืออยู่ที่บ้าน หรือรับชมการถ่ายทอดสดจากห้องเรียนผ่านทางระบบอินเตอร์เน็ต ก็มีหลาย ๆ ทางเลือกนะครับ ส่วนตัวผมถนัดที่จะไปขอใช้บริการไรท์ CD-DVD เทปบรรยาย ของแต่ละอาทิตย์มาดูเอง เพราะว่ามันชัดกว่าที่เราดูจาก "อินเตอร์เน็ต"

เป็นยังไงบ้างครับ พอที่จะเห็นภาพกันบ้างหรือเปล่า เมื่อเรามาเรียนรามฯแล้วการจัดการเรื่องของชีวิตก็เป็นส่วนสำคัญ ทำให้เราเดินทางได้ตรงเป้าหมายมากขึ้น หรือหากว่าหลุดจากเป้าหมายแล้วก็สามารถดึงตัวเองกลับมาได้อย่างรวดเร็ว อย่างบางคนก็ทำงานไปด้วย เรียนไปด้วย เช่นช่วงเช้าทำงาน ช่วงเย็นก็มาอ่านหนังสือสัก 3-4 ชั่วโมง ก็ถือว่าโอเคแล้วครับ

ยังไงพบกันบทความหน้านะครับ ผมจะทยอยเขียนให้อ่านกันได้เรื่อย ๆ

1 ความคิดเห็น: