โดยที่ผมมองดูจากกระบวนวิชาทั้งหมดที่เราจะต้องเรียนนั้นต้องเก็บให้ได้ทั้งหมด 134 หน่วยกิต
ถ้าให้คิดก็จะราว ๆ ประมาณ 8 วิชาครับ แต่อนิจจาช่างดลใจ เทอมนี้ผมลงไปแค่ 19 หน่วยกิต รวมแล้วคือ 8 วิชาเหมือนกัน หนึ่งในนั้นคือ RU 100 ความรู้คู่คุณธรรม ซึ่งเป็นวิชาที่ไม่นับหน่วยกิตด้วยอะครับ เพราะตอนที่มาสมัคร ไม่มีใครคอยแนะนำว่าควรที่จะเลือกลงกระบวนวิชาอย่างไรดี ผมก็ตามใจท่านอาจารย์ที่รับสมัครผมเลยครับนั่นก็คือ "เรียนตามแผนของมหาวิทยาลัยฯ" ผมก็ อือ ๆ ออ ๆ ไปตามท่านแล้ว และไม่อยากจะปรับใหม่ เพราะที่เรียนอยู่ก็เยอะพอสมควร ถึงอย่างไรก็แล้วแต่ ปรับอย่างไรสุดท้ายเราก็ต้องเรียนให้ครบทุกเล่มอยู่ดีครับ ผมเลือกแล้วค่ามันเท่ากัน"เทอมหนึ่งเราลงได้ 24 หน่วยกิต แบบเต็ม ๆ"
เพราะว่าจากที่ผมนับกระบวนวิชาแล้ว เราจะต้องเรียนทั้งหมดจนกว่าจะจบปริญญาตรี สาขานี้ประมาณ 49 วิชา หรือหากนับเป็นเล่ม คือ 49 เล่ม เอางี้ดีกว่าเพื่อความชัดเจน ผมว่าเราแบ่งมาอย่างงี้ดีกว่าครับ
การวางแผนเรียนราม โดยแบ่งเป็น เทอม |
ตามแผนที่ผมวางไว้ในรูปที่ท่านผู้อ่านบล็อกได้เห็น พอถึงเวลาจริง ๆ อาจจะมีการปรับเปลี่ยนก็ได้นะครับ อาจจะสลับที่กันก็ได้ เพราะว่าอะไร เพราะผมยังไม่รู้ว่าแต่ละภาคเรียน หรือว่าในแต่ละเทอม วิชาไหนจะบรรยายในเทอมนั้นบ้าง หรือวิชาไหนที่ไม่ได้บรรยายในเทอมนั้น ๆ บ้าง อันนี้ก็ต้องคอยดูกันต่อไปครับ ส่วนรูปที่ผมวางไว้ดู ๆ แล้ว เหมือนผมวางเป้าหมายไว้ที่ 2 ปีครึ่งเลย ที่ผมเผื่อเวลาและวางเป้าหมายต้องจบภายใน 3 ปีก็เพราะว่าเผื่อเหลือเผื่อขาด วิชาที่ดูยาก ๆ และไม่ถนัดสำหรับผมอาจจะเป็นวิชาที่เกี่ยวกับการคำนวณอย่าง กระบวนวิชา MA 113 แคลคูลัสสำหรับธุรกิจ 1 และ ST 206 สถิติธุรกิจ ส่วนวิชาอื่น ๆ ผมสู้ตายฮ่าๆ ๆ ๆ ๆ ยังไงก็ต้องรอดูกันต่อไปครับ ว่าผมจะไปรอดได้แค่ไหน
ดังนั้นการวางแผนเรียนราม ของ สาขาการตลาด คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยรามคำแหง อาจจะดูเป็นแบบปกติทั่วไปครับ ไม่ได้แตกต่างจากคณะอื่นเท่าไหร่ เขาก็คิดวิธีเดียวกับที่เราคิดนี่หล่ะครับ สุดท้ายจริง ๆ แล้วจะวางแผนอะไรก็ตาม ก็ต้องอ้างอิงตัวเราเป็นหลักครับ ว่าชีวิตเราเป็นแบบไหน จะไหวมั่ย ผมคิดว่าถ้าเราไม่เอาเวลาไปใช้กับอย่างอื่นมากเกินไป ผมว่าจบภายใน 3 ปีแน่นอน อะไรที่ผมมั่นใจขนาดนั้น "เพราะผมตั้งใจอ่าน ขยันฝึกเขียน และนึกถึงทุกวัน" ผมเองก็อาจจะไม่ได้แตกต่างไปจากอะไรกับผู้อ่านบล็อกมากหรอกครับ "คนหาเช้ากินค่ำ" เหมือนกัน ต้องกิน ต้องอยู่ ต้องทำงาน ต้องเรียน อยู่ที่ว่าใครจริงใจกับอะไรมากกว่ากัน ผมนอนวันหนึ่งแค่ 5 ชั่วโมง - 6 ชั่วโมง ตื่น 6 โมงเช้า รีบอาบน้ำ รีบทำงาน พักเที่ยงก็ต้องรีบกินข้าว รีบทำงานต่อให้เสร็จ 5 โมงเย็นเลิกงาน ก็ไปวิ่งที่สนามกีฬาราชมัง เพราะเป็นการออกกำลังกาย ไม่เกิน 1 ทุ่มถึงบ้าน อาบน้ำต่อ แล้วเริ่มอ่านหนังสือก็จะเป็นเวลาประมาณ 2 ทุ่ม หรือ 20.00 น. เวลาทั้งหมดที่ใช้นี่ก็คือ 4 ชั่วโมงครับ ชั่วโมงแรก เราอ่านล่วงหน้าไปก่อน ส่วนชั่วโมงที่สอง และสาม ผมฟังวีดีโอ เทปคำบรรยายจาก Internet ซึ่งจะใช้เวลาในแต่ละวิชาประมาณ 2 ชั่วโมง ส่วนชั่วโมงที่ 4 คือผมทบทวน และอ่านล่วงหน้าไปพราง ๆ ก่อน คราวหน้ามาดูวีดีโอ จะได้เข้าใจ
ชีวิตผมก็จะประมาณนี้ครับ จำเป็นในเรื่องของระเบียบวินัย เพราะมันฝึกตัวเรา ให้เป็นคนที่เอาใจใส่ต่อหน้าที่
"โชคดีครับทุกคน"
เก่งจังค่ะ อยากเรียนบ้างจัง เเต่กำลังหารายละเอียดอยู่ค่ะ
ตอบลบเป็นกำลังใจให้ค่ะ กำลังจะลงเรียนอยู่พอดีแต่ตอนนี้เรียนป.ตรี ที่่มหิดลอยู่หนักมากๆเลย T^T
ตอบลบหาที่ติวการตลาดยากจังเลยค่ะ สำหรับคนทำงานที่เวลาว่างน้อย
ตอบลบซอย43/1 หน้ารามที่ติวดีๆครับ
ตอบลบเก่งมากเลย นี่ก็ทำงานเหมือนกัน เพิ่งตัดสินใจย้ายคณะมาด้วย จะพยายามเอาคุณเป็นตัวอย่างนะคับ
ตอบลบ^_^
ตอนนี้เป็นไงบ้างครับ
ตอบลบถ้าผมไม่ค่อยมีเวลาเรียนผมควรต้องทำยังไงดีคับ
ตอบลบพี่เรียนไปทำงานไปใช่ไหมคะ? แล้วมีวิชาไหนบ้างไหมคะที่เราต้องเข้าเรียนแล้วถ้ารอไปสอบอย่างเดียวเวลาอ่านหนังสือมีวิชาไหนบ้างคะที่หาซื้อชีทหรือหนังสือไม่ได้อ่ะคะหรือวิชาไหนเรียนยากมากคะ..
ตอบลบสุดยอดครับเดะผมจะลองปรับใช้ดู
ตอบลบถ้าเราไม่เข้าเรียน อยากไปสอบอย่างเดียวสามารถเรียนสาขานี้ได้มั้ยคะ มีวิชาที่บังคับไปเรียนมั้ย
ตอบลบ