วันพฤหัสบดีที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2554

มหาวิทยาลัยรามคำแหง สถาบันแรก ที่เลือกเรียน

ผมก็ไม่อาจที่จะบรรยายให้ท่านผู้อ่าน ได้เข้าใจอะไรมากมายนักหรอก ว่าชีวิตนี้ผมไม่พ้นถิ่นถาน ที่เรียกว่า "รามคำแหง" ผมอยู่ที่นี่มา 15 ปีได้ ... เรียกได้ว่าตั้งแต่ผมเรียนประถมต้น มัธยมตอนต้น ตลอดจนจบปวช. โรงเรียนเหล่านี้อยู่ภายใต้ ถนนรามคำแหง ทั้งสิ้น จะเป็นอะไรไป ถ้าผมจะต่อในระดับมหาวิทยาลัย โดยมีสถาบันที่ชื่อว่า "มหาวิทยาลัยรามคำแหง" สถาบันแรกที่ผมเลือกเรียน และไม่คิดที่จะปันใจให้ที่อื่น

ผมคิดว่าผมมีเหตุผลมาก และเป็นเหตุผลที่ดีพอ ก่อนจบการศึกษาในระดับ ปวช. กลุ่มเพื่อนพ้องมากมาย เลือกที่จะต่อในระดับ ปวส. ที่เดิม และมหาวิทยาลัยแห่งใหม่ แต่สิ่งที่น่าแปลกใจ เมื่อครั้นได้เอ่ยถึงนามแห่ง มหาวิทยาลัยรามคำแหง แล้วนั้น เพื่อน ๆ มากมาย ต่างเมินหน้าหนีเรา บ้างก็บอกไม่ไหว บ้างก็บอกมันยากเกินไป

แต่ผมกลับคิดไปไกลมากกว่านั้น "ผมพยายามมองหา มหาวิทยาลัย หรือสร้างโอกาส และสภาพแวดล้อม ที่เอื้ออำนวยกับการส่งเสริม ให้เราเป็นคนรู้จักรับผิดชอบต่อหน้าที่ รู้จักบังคับตัวเอง รู้จักคำว่าระเบียบวินัย" ถ้ามองกลับไปในมุมเพื่อน เพื่อนที่มีแต่ความเฉยชา ต่อการดิ้นรนในการพัฒนาตัวเอง ก็จะบ่ายหน้าหนีออกไปจากมุมมองของเรา

ถ้าหากผมอ้างอิงกฏแห่งการใช้ชีวิต หรือกฏแห่งแรงดึงดูด เราเป็นคนอย่างไร หรือมีสภาพแวดล้อมอย่างไร ก็จะทำให้เราเป็นคนแบบนั้นไปด้วย สมมุติ เราอยู่กับคนเก่ง ๆ กับคนขยัน เราก็จะขยันตาม หรือเราอยู่กับเพื่อนที่เรื่อย ๆ ไม่มีกิจกรรมเป็นแก่นสารในทางที่ดี ก็จะทำให้เราเขว และตามเพื่อนในที่สุด

แต่สุดท้ายแล้ว ผมคงจะจบด้วยคำว่า "โทษตัวเอง" จริงครับ ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าเรา สิ่งนั้นคือสิ่งภายนอก ซึ่งอาจจะเป็นปัจจัยประกอบ ทำให้เราตัดสินใจลงไป แต่อย่างไรสุดท้ายมันก็อยู่ที่เราเลือกที่จะไปนั่นเอง

การเรียนที่ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ผมจึงมองเห็นประโยชน์มากกว่าโทษ อย่างน้อย ๆ วัดลงไปเลยว่า "เรามีความรับผิดชอบแค่ไหน ถ้าไม่มี ก็ไม่จบ" ทุกอย่างมันสอนตัวเราเอง

ผมเลยไม่คิดที่จะปันใจให้สถาบันมหาวิทยาลัยอื่น เพราะที่นี่นอกจากจะอยู่ใกล้บ้านเราแล้ว ยังจะมีประโยชน์ที่เอื้อต่อการพัฒนาตัวเราเองอีกต่างหาก ทำไมหล่ะ ที่ผมจะไม่เลือกเรียน